วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561

สเต็ม


                                              สบู่จากสมุนไพร

บทคัดย่อ
                โครงงานสะเต็มศึกษาเรื่องเรื่อง สบู่จากสมุนไพร มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคและทำสบู่สมุนไพร 3 ชนิด
วิธีการดำเนินงาน
                1.นำกลีเซอรีนไปต้ม
                2.ตั้งไว้ให้เย็น
                3.ใส่วัตถุดิบที่ต้องการ เช่น น้ำผึ้ง มะนาว อัญชัน
                4.นำไปใส่แม่พิมพ์ รอให้แห้ง

                5.แกะออกจากแม่พิมพ์

กิตติกรรมประกาศ

            โครงงานสบู่จากสมุนไพรที่นักเรียนทำการศึกษาค้นคว้าทดลองครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน ให้คำปรึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณครู สุฐิยา เพชรวงษ์  คุณครู ฤทัยรัตน์ ศักดิรัตน์ ผู้บริหารและคณะครูทุกท่านในโรงเรียนที่ให้คำปรึกษาระหว่างการทำงาน การแก้ปัญหาอุปสรรค์ต่างๆ ทำให้โครงงาน
สบู่สมุนไพร ของกลุ่มเราสำเร็จด้วยดี
                สุดท้ายนี้ขอขอบใจสมาชิกในกลุ่มทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ให้ข้อเสนอแนะทำให้ผลงาน การทำสบู่จากสมุนไพรสำเร็จ ออกมาได้สมบูรณ์


สารบัญ


เรื่อง                                                                                                                              หน้า


บทคัดย่อ                                                                                                                       ก


กิตติกรรมประกาศ                                                                                                         ข


สารบัญ                                                                                                                         ค


สารบัญรูปภาพ                                                                                                              จ


บทที่ 1 บทนำ                                                                                                               1


1.1 แนวคิดที่มาของโครงงาน


1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน


1.3 ขอบเขตของโครงงาน


1.4 วิถีการดำเนินการ


1.5 ประโยชน์ที่ได้รับ


1.6 นิยามศัพท์


บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง                                                                                           2


2.1 ประโยชน์ของขิง


2.2 ประโยชน์ของน้ำผึ้ง


บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานโครงงาน                                                                               14


3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่อง หรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา


3.2 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน


บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน                                                                                            15


4.1 ผลการดำเนินงาน


4.2 การนำไปใช้


บทที่ 5 สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ                                                                        16


5.1 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน


5.2 ปัญหาและอุปสรรค์


5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา


บรรณานุกรม

บทนำ
1.  แนวคิดที่มาและความสำคัญของโครงงาน
สมุนไพรในธรรมชาติมีประโยชน์ต่อมนุษย์มากมาย ปัจจุบันจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ เพราะสมุนไพรไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมากนักแต่สารเคมีไม่แม้แต่มีประโยชน์อย่างเดียวแล้วก่อให้เกิดโทษด้วย กลุ่มของพวกเราจึงใช้สมุนไพรมาทำสบู่เพราะไม่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายและมี่ประโยชน์มากมายหลายด้าน เช่น ขมิ้น  ช่วยรักษากลากเกลื้อน   มะลิ  แก้ผิวหนัง ผืน คัน
มะขามช่วยบำรุงผิวให้ดูสดใสด้วยวิตามินซีในมะขาม   อัญชัน  มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและ 
ริ้วรอยของวัย  จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เห็นว่าสมุนไพรมีประโยชน์มากมาย และไม่มีโทษต่อร่างกาย กลุ่มของดิฉันจึงนำสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
2.1 เพื่อทำสบู่มะลิ
3. ขอบเขตและข้อจำกัดของโครงงาน
ใช้กลีเซอรีน แม่พิมพ์ หม้อ เตาแก๊ส ขมิ้น อัญชัน ผิวมะนาว ขิง
4. ประโยชน์ที่ได้รับ
       4.1 ได้สบู่มะลิ
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาโครงงานเรื่อง สบู่จากสมุนไพร ผู้จัดทำได้รวบรวมแนวคิดต่างๆ จากเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
       2.1 ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
 1.ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
2.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
3.ช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
4.ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ดูมีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติ
5.พอกหน้าด้วยน้ำผึ้งช่วยบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่น และนุ่มนวล หลังล้างหน้าเสร็จให้นำกล้วยหอมครึ่งลูก นำมาบดผสมรวมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
6.ช่วยบำรุงรักษาผิวหน้าที่แห้งแตกลอกเป็นขุย ด้วยการนำไข่แดง 1 ฟองผสมกับน้ำผึ้งผสม 1 ช้อน คนให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
7.ช่วยบำรุงสมอง ช่วยในเรื่องของความจำ
8.ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนัง
9.ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสวยเงางาม หลังสระผมเสร็จให้นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก
10.ช่วยบำรุงเสียงให้ใส ลดอาการเจ็บคอ
11.ช่วยลดสิวเสี้ยน สิวอุดตันบนใบหน้า หลังล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเสร็จแล้วให้นำกล้วยหอมครึ่งลูก นำมาบดผสมรวมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
12.นิยมนำมาใช้ผสมในเครื่องต่าง ๆ เช่น นม ชา กาแฟ โยเกิร์ต น้ำมะนาว หรือแม้กระทั่งเบียร์หรือไวน์
13.นำมาใช้เป็นส่วนผสมในขนมหวานต่าง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ธัญพืชต่าง ๆ
14.ใช้น้ำผึ้งแทนสารกันบูดในน้ำสลัด ซึ่งจะทำให้น้ำสลัดไม่เสียและเก็บได้นานถึง 9 เดือน
15.น้ำผึ้งสามารถนำมาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น มาส์กหน้า สบู่ เจลล้างหน้า สครับ เป็นต้น
16.น้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ
17.ช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ต้านทานโรคต่าง ๆ ได้ดี
18.ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตในวัยเด็ก
19.ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
20.ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการทำงานหรือเล่นกีฬา
21.ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของผู้ป่วยในระยะพักฟื้น หรือผู้สูงอายุ
22.ช่วยบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
23.ช่วยในควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วน
24.ช่วยบำรุงเลือดในร่างกาย ด้วยการใช้น้ำผึ้งครึ่งช้อนโต๊ะใส่แก้ว แล้วบีบมะนาว 1 ซีก ใส่เกลือเล็กน้อย แล้วเติมน้ำร้อนดื่ม
25.ช่วยรักษาอาการหวัดให้หายเร็วขึ้น
26.น้ำผึ้งสามารถบรรเทาอาการไอจากหวัดในเด็กได้ดีกว่ายาแก้ไอ
27.ช่วยรักษาอาการเมาค้าง
28.ช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่
29.น้ำผึ้งมีฤทธิ์ยาระงับประสาทอ่อน ๆ จึงช่วยลดอาการหงุดหงิด ความกังวลได้
30.ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับและช่วยทำให้หลับสบายยิ่งขึ้น
31.ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้น้ำผึ้งและงาดำอย่างละ 50 กรัม โดยนำงาดำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำผึ้ง ชงกับน้ำร้อนดื่ม
32.ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้สาลี่หอมจำนวน 5 ลูก น้ำผึ้ง 250 กรัม โดยปอกลูกสาลี่แล้วนำมาตำให้ละเอียด นำไปคลุกกับน้ำผึ้งแล้วต้มจนเหนียว แล้วนำมาผสมกับน้ำกิน
33.ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของธาตุเหล็กซึ่งช่วยในการเพิ่มเม็ดเลือดแดง
34.ช่วยบำรุงหัวใจ ขับชีพจร และป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
35.ช่วยบำรุงและรักษาโรคตับ
36.ช่วยระงับความร้อนในร่างกาย
37.ช่วยรักษาอาการตาอักเสบจากการติดเชื้อ เช่น กระจกตาอักเสบ เยื่อตาอักเสบ เป็นต้น
38.ช่วยบรรเทาอาการไอ หลอดลมอักเสบ มีเสมหะ ด้วยการชงดื่มกับน้ำมะนาว
39.น้ำผึ้งช่วยลดกรดในกระเพาะ ช่วยในการย่อยอาหาร เพราะน้ำผึ้งจะถูกดูดซึมทันทีเมื่อถึงลำไส้ ซึ่งต่างจากน้ำตาลชนิดอื่น
40.ช่วยรักษาโรคกระเพาะ
41.ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียอย่างรุนแรง
42.ช่วยแก้อาการท้องเดินและช่วยบำรุงลำไส้ที่อักเสบให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
43.ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแคนดิดา (Candida) ได้ดีพอ ๆ กับยาฆ่าเชื้อแผนปัจจุบัน
44.ช่วยแก้อาการเด็กปัสสาวะรดที่นอนเป็นประจำ เพราะช่วยดูดความชื้นและช่วยอุ้มน้ำไว้
45.ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการนำกระเทียมผสมกับน้ำผึ้ง รับประทานวันละ 3 ครั้ง
46.ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ ด้วยการใช้น้ำส้มนำมาผสมกับแอปเปิลไซเดอร์ 2 ช้อนชาลงในน้ำร้อน แล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ชงดื่มวันละสองครั้ง
47.ช่วยแก้อาการตะคริวหรือป้องกันการเป็นตะคริว
48.ช่วยแก้อาการท้องผูก ด้วยการรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มกับน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกลงได้
49.ช่วยลดการอักเสบของบาดแผล
50.ช่วยป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลและช่วยให้แผลหายเร็ว
51.ช่วยรักษาโรคฮ่องกงฟุตและกลากเกลื้อน
52.ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและต่อต้านจุลินทรีย์
53.ช่วยแก้ปัญหาเด็กแหวะนม โดยใช้น้ำผึ้งผสมกับนมดื่ม

54.ใช้เป็นน้ำกระสายยา

   2.2 ประโยชน์ของมะลิ
1. มะลิมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงหัวใจ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นหัวใจให้ทำงานได้อย่างเต็มที่และเป็นปกติ และช่วยขยายหลอดเลือด โดยสารสกัดจากดอกมะลิซึ่งได้มีการนำมาเป็นส่วนประกอบของยาหอมกันมาก เพื่อช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม แก้อาการอ่อนเพลีย ทำให้มีกำลังขึ้น
2. มะลิมีน้ำมันหอมระเหยเป็นส่วนประกอบอยู่มาก โดยเฉพาะในส่วนของดอก ซึ่งมีประโยชน์ในทางสุคนธบำบัดที่มีผลต่อระบบประสาทในคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว เฉื่อยชา จิตใจอ่อนล้า ร่างกายอ่อนเพลียง่าย แต่กลิ่นหอมจากมะลิจะช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ให้ไปในทางที่ดีขึ้น จิตใจผ่อนคลาย
3. สรรพคุณของมะลิมีฤทธิ์ช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายและสบายขึ้น เหมาะกับคนที่นอนไม่ค่อยหลับหรือหลับยาก เนื่องจากกลิ่นหอมๆ ของมะลิจะไปช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสกลิ่นให้ร่างกายผ่อนคลาย ซึ่งหลายคนคงจะเคยเห็นผู้ใหญ่มักนำดอกมะลิมาวางไว้บริเวณใกล้กับหมอน ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้หลับสนิทยิ่งขึ้นนั่นเอง
4. ประโยชน์ของดอกมะลิได้ถูกนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เพื่อประโยชน์ในการช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวพรรณและผิวหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น โดยจะหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะลิผสมกับน้ำแล้วใช้อาบน้ำ
5. มะลิมีคุณสมบัติที่ช่วยแก้อาการปวดท้อง เสียดท้อง ท้องเสีย ทำให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติ
6. มะลิมีสรรพคุณในการแก้ไข้ แก้หวัดแดด ตัวร้อน บรรเทาอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดี
7. มะลิมีส่วนสำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในรูปของชาซึ่งจะมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายไม่เสื่อมสภาพง่าย ส่งผลให้ร่างกายไม่แก่ก่อนวัยและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
8. ชามะลิยังมีสรรพคุณช่วยในเรื่องของการดูดซึมคอเลสเตอรอลและไขมันในร่างกายที่ได้รับมากเกินไป เมื่อระดับของคอเลสเตอรอลและไขมันอยู่ในระดับที่สมดุล และพอดีกับความต้องการของร่างกาย ก็ทำให้ลดความเสี่ยงจะเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ
9. ดอกมะลิสดๆ ที่ล้างสะอาดแล้วก็นำมาใช้ลอยในน้ำดื่มเย็นๆ ซึ่งเมื่อดื่มแล้วจะช่วยให้ความรู้สึกหอมสดชื่น นอกจากนี้ยังใช้ลอยในน้ำเชื่อมที่กินกับขนมหวานเพื่อให้มีกลิ่นหอม
10. สรรพคุณของมะลิมีฤทธิ์ช่วยกำจัดและยับยั้งแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุได้ โดยส่วนของดอกมะลิจะช่วยทำให้สุขภาพภายในช่องปากดีขึ้น และรากของต้นมะลิสามารถแก้อาการเลือดออกตามไรฟันหรือปวดฟัน
11. มะลิใช้ประโยชน์แก้บรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ และอาการผดผื่นคันตามร่างกาย
12. มะลิใช้รักษาบาดแผลเรื้อรัง แก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย รวมไปถึงแผลผุพองหรือฝีหนอง โดยตามตำรับยาโบราณจะใช้ดอกมะลิมาตำพอละเอียดแล้วนำไปพอกบริเวณผิวหนังที่มีอาการ
13. มะลิมีสรรพคุณที่กลิ่นหอมเย็น เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่มจึงมีคุณสมบัติดับพิษร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยขับเหงื่อ ทำให้ร่างกายและจิตใจกระปรี้กระเปร่า
14. มะลิยังมีสรรพคุณแก้อาการเจ็บตา ตาแดง และเป็นยาล้างตาเพื่อรักษาเยื่อตาขาวอักเสบ ด้วยการนำดอกมะลิมาต้มน้ำเดือดรอให้เย็นลง แล้วนำมาใช้ล้างตาก็จะช่วยให้อาการดีขึ้น

บทที่ 3
วิธีการดำเนินงานโครงงาน
3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา
1. ขมิ้น                                     4. แม่พิมพ์
2. หม้อ                                     5. ผิวมะนาว
3. ช้อน                                     6. น้ำผึ้งรวง
3.2 ภาพร่างในการพัฒนาชิ้นงาน
ไม่มี
3.3 ในกรณีที่เป็นโครงงานของการสร้างวิธีการ จะเป็นการเขียนแผนผังของวิธีการ
ไม่มี
3.4 ขั้นตอนการสร้างชิ้นงานตามแบบ
1. นำกลีเซอรีนไปให้ความร้อนจนกลีเซอรีนละลาย
2. เตรียมส่วนผสมที่ใช้
3. นำส่วนผสมที่ใช้มาผสมกับกลีเซอรีนแล้วคนให้เข้ากัน
4. เทใส่ในแม่พิมพ์ รอจนสบู่เซ็ตตัว
5. แกะออกจากแม่พิมพ์
6.จะได้สบู่ตามต้องการ
3.5 ทดสอบและปรับปรุงชิ้นงานให้สามารถทำงานได้
นำสบู่มาล้างมือและใส่กลีเซอรีนในปริมาณที่เยอะขึ้น
3.6 รายงานปัญหาและวิธีการปรับปรุงแก้ไขปัญหา
ไม่มี
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
     4.1 ผลการดำเนินงาน
ได้สบู่ที่ทำจากมะลิ
     4.2 การนำไปใช้ให้ครอบคลุมหน่วยบูรณาการของกลุ่มสาระในระดับ ม.2เรื่อง “วิถีพอเพียง”
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง “พลังงานพอเพียง”
แนวทางการบูรณาการ   ธาตุและสารประกอบ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง “คณิตกับชีวิตประจำวัน”
แนวทางการบูรณาการ   อัตราส่วนและร้อยละ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง “ภาษาสร้างสรรค์”
แนวทางการบูรณาการ   การเขียนเพื่อการสื่อสาร หลักการฟัง และการดูสื่อ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง “ธรรมะสร้างสรรค์”
แนวทางการบูรณาการ   การผลิตและการบริการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง “อยู่ดีมีสุข”
แนวทางการบูรณาการ   วัยรุ่นและการเจริญเติบโตตามวัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เรื่อง “ศิลป์สร้างสรรค์”
แนวทางการบูรณาการ   ความสัมพันธ์ของนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่เป็นภูมิปัญญาไทย
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง “ทักษะสร้างอาชีพ”
แนวทางการบูรณาการ   ความปลอดภัยในงานช่าง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง “English Around us”
แนวทางการบูรณาการ   Present Simple Tense
กลุ่มสาระการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนว เรื่อง “แนะแนวอาชีพ”
แนวทางการบูรณาการ   อาชีพสานสู่ฝัน

     บทที่ 5
สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
ได้สบู่ทั้งหมด 3 ก้อน
1.สบู่น้ำผึ้ง
2.สบู่มะลิ
     5.2 ปัญหาและอุปสรรค์
เกิดไอน้ำบริเวณพื้นที่ผิวด้านบนของสบู่และสบู่บางชนิดไม่จับตัวกันเป็นก้อนทำให้ไม่สามารถนำสบุ่ปใช้งานได้
     5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
ต้องกำหนดเวลาให้ดี เพราะ ถ้ามากหรือน้อยเกินไปจะทำให้กลีเซอรีนแข็งหรือเหลวได้

ภาคผนวก
ภาพถ่ายลำดับขั้นตอนการสร้างาน



นำกลีเซอรีนไปให้ความร้อนจนกลีเซอรีนละลาย

 เตรียมส่วนผสมที่ใช้


 นำส่วนผสมที่ใช้มาผสมกับกลีเซอรีนแล้วคนให้เข้ากัน
\

เทใส่ในแม่พิมพ์ รอจนสบู่เซ็ตตัว



แกะออกจากแม่พิมพ์

จะได้สบู่ตามต้องการ

บรรณานุกรม


กระทรวงสาธารณสุข.(2560). ประโยชน์ของขิง.สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม .จาก                                  
                https://medthai.com/มะลิ
กระทรวงสาธารณสุข.(2560). ประโยชน์ของน้ำผึ้ง.สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม .จาก                                  
                 https://medthai.com/น้ำผึ้ง













  

8 ความคิดเห็น: