วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561

งานอดิเรก

                                                        งานอดิเรก

1.ฟังเพลง

1. คลายความเครียด
ใคร ๆ ก็รู้ว่าดนตรีช่วยให้เราอารมณ์ดี งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ยังบอกด้วยว่า การฟังเพลงช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี อ้างอิงโดยการทดลองกับกลุ่มผู้ป่วย ICU นั่นเอง
สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน ลองกินข้าวเคล้าเสียงเพลงคลาสสิค เพลงแจ๊ส หรือเพลงจังหวะเบา ๆ กันดู เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอร์เนลสรุปว่า เหล่าคนที่กินข้าวเคล้าเสียงเพลงจังหวะนิ่ม ๆ จะกินอาหารได้น้อยลงกว่า 18% จากปกติ
เสียงดนตรีไม่ได้มีดีแค่ทำให้ชีวิตเราสนุกสนานและมีความสุขเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพให้กับเราด้วย
2. ดนตรีจังหวะเบาๆนุ่มนวลช่วยลดความอ้วน
3. กระตุ้นแรงบันดาลใจ
มหาวิทยาลัยนอร์ธัมเบรียก็แสดงผลวิจัยว่า เสียงเพลงในจังหวะเร็ว ช่วยกระตุ้นความตื่นตัว เสริมแรงบันดาลใจของคุณให้กลับมามีพลังอีกครั้งได้ โดยเกิดจากการทดสอบของกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจแห่งความเครียดชิ้นหนึ่งและพบว่า เขาเหล่านี้จะทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฟังเพลง
4. ช่วยให้การสูบฉีดเลือดดีขึ้น
นักวิจัยชาวดัตช์ได้เผยผลวิจัยในการประชุมของสมาคมโรคหัวใจแห่งยุโรป เมื่อปี 2003 ว่า ผู้ป่วยที่ฟังเพลงโปรดวันละ 30 นาทีเป็นประจำในขณะที่ออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มกรดไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide)ที่มีส่วนช่วยขยายหลอดเลือดให้เลือดเดินสะดวกยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อหัวใจด้วย
5. ยิ่งร้องประสานเสียงยิ่งมีความสุข
ในจำนวนผู้ทดลอง 375 คน แบ่งเป็นกลุ่มนักร้องประสานเสียง นักร้องเดี่ยว และกลุ่มนักกีฬาเป็นทีม ผลวิจัยของประเทศอังกฤษก็พบว่า กิจกรรมที่ทำร่วมกันเป็นทีมจะมอบความสุขให้กลุ่มผู้ทดลองได้มากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มนักร้องประสานเสียง ซึ่งสามารถวัดระดับความสุขได้สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ทั้งนี้เนื่องจาก การได้ทำอะไรร่วมกัน ความสามัคคี ความรู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน จะส่งเสริมให้ทุกคนมีกำลังใจและมีความสุขมากขึ้น
6. ลับสมองด้วยทักษะดนตรี
วารสารประสาทวิทยาแสดงผลวิจัยที่เกี่ยวข้องกับดนตรีกับประสิทธิภาพการทำงานของสมองว่า คนที่มีทักษะการเล่นดนตรีชนิดใดชนิดหนึ่งตั้งแต่เด็ก หรือวัยรุ่น จะมีแนวโน้มคงประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ยาวนานกว่าคนที่ชีวิตนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับดนตรีเลย อีกทั้งนักดนตรีทั้งหลายยังมีทักษะการแยกแยะและตอบสนองต่อเสียงได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย
7. เสียงเพลงเรียกร้องความร่วมมือจากเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากหล่อหลอมให้ลูกมีจิตใจอ่อนโยน นักวิจัยจากประเทศอังกฤษแนะนำให้ส่งลูกเข้าเรียนดนตรีตั้งแต่ยังเด็กๆ เพราะเสียงเพลงจะช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เด็กเกิดความอ่อนโยน มีสมาธิมากขึ้น
8. ชะลออารมณ์หงุดหงิดของคนขับรถ
การขับรถบนท้องถนนอันวุ่นวาย มีส่วนสร้างอารมณ์ฉุนเฉียวให้เราได้มากเลยทีเดียว แต่งานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารการยศาสตร์ เมื่อปี 2013 ก็ชี้แนะวิธีลดความโกรธของผู้ขับขี่โดยให้ผู้ขับขี่เปิดเพลงโปรดฟังคลอการขับขี่ไปเรื่อย ๆ แค่นี้ก็จะสามารถควบคุมอารมณ์และการขับขี่ของตัวเองได้มากขึ้นแล้ว
9. ควบคุมโรคมะเร็งในเด็กได้
โรงพยาบาลเพื่อการวิจัยเด็กเซนต์จูด (St. Jude Children’s Research Hospital) ได้เผยผลการทดลองว่า กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งวัยเด็กจนถึงวัยรุ่นที่ทำการรักษาด้วยดนตรี มีแนวโน้มควบคุมการขยายตัวของโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในช่วงปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่ได้เรียนรู้การเขียนเพลงและการทำมิวสิควิดีโอ เนื่องจากโลกแห่งเสียงดนตรีจะช่วยเยียวยาความรู้สึก และป้องกันปัจจัยภายนอกที่จะเข้ามาบั่นทอนผู้ป่วยให้หมดกำลังใจในการรักษาได้ และเมื่อผู้ป่วยมีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นก็มีโอกาสต่อสู่โรคมะเร็งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพขึ้นนั่นเอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประโยชน์การฟังเพลง

2.ร้องเพลง
การร้องเพลงนั้น เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของอารมณ์ของมนุษย์เรา ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยร้องเพลงอย่างแน่นอนยกเว้นคนใบ้ แต่จะมีซักกี่คน ที่รู้ว่าการร้องเพลงเล่นๆ ของคุณ มันมีประโยชน์อย่างมากมายอย่างไร
1. การขับสาร Endorphins และสาร Oxytocin โดยสารนี้สองตัวนี้เป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความสุขและความรู้สึกสบาย และที่สำคัญสาร Oxytocin ยังสำคัญต่อสภาพสตรีที่อยู่ในช่วงตั้งคครภ์หรือหลังคลอดเป็นอย่างมากอีกด้วย
2. ช่วยเพิ่มความรู้ จากการศึกษาในหลายแห่ง พบว่า การร้องเพลงมักจะเพิ่ม IQ และสามารถปรับปรุงการทำงานของสมองให้ดีขึ้นด้วย
3. ช่วยให้อายุยืน จากการร่วมกันวิจัยของ มหาวิทยาลัยเยล และ มาหวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าการร้องเพลงประสานเสียง จะช่วยทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีและอายุยืนขึ้นนั้นเอง
4. ช่วยลดความดันโลหิตอีกด้วย เพราะเสียงเพลงที่เบาๆ นุ่มสบายๆ จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดสงบและผ่อนคลาย
5. การร้องเพลงจะช่วยให้กระบังลมและกล้ามเนื้อช่วงซี่โครงของคุณขยาย และมันสามารถเสียมกล้ามเนื้อช่วงท้องได้อีกด้วย และการร้องเพลงจะช่วยให้ระบบหายใจคุณดีขึ้นนะครับ
6. ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมของผู้อื่น เสียงเพลงจะช่วยทำให้เราสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ และทำให้เราสามารถวางตัวได้ถูกเมื่อเจอกับผู้อื่น
7. ทำให้ปอดแข็งแรงขึ้น เพราะการร้องเพลงออกเสียง จะช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจคุณดีขึ้นและทำให้ปอดแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
8. สร้างความผูกพันธ์ในชุมชน มันจะช่วยทำให้คุณเข้ากับผู้อื่นในชุมชนได้ดีเป็นอย่างมากเลยละ
9. การร้องเพลงช่วยในการรักษาโรค พาร์กินสัน การร้องเพลงจะช่วยคงบคุมอาการของโรคและเยียวยาได้ด้วย
10. สามารถช่วยให้ความจำคุณดีขึ้น เพราะการจำเนื้อเพลง มันเป็นการฝึกหน่วยความจำของคุณอย่างหนึ่งนั้นเอง
11. เพิ่มภูมิคุ้มกันตัวเอง การร้องเพลงจะช่วยลดความดันเลือด และความเครียดในแต่ละวันลงได้อย่างมากเลยทีเดียวเชียวล่ะ
ดังนั้นอย่าลืมร้องเพลงให้มากๆด้วยละ มันจะทำให้คุณดูเป็นคนอารมณ์ดีอีกด้วย



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ร้องเพลง

3.อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยพัฒนาเรื่องการจำ รวมถึงชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญ และช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น
มีทักษะในการสื่อสารที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป
หนังสือบางประเภทช่วยให้เราสามารถฝึกฝนทักษะในการคิดเชิงวิเคราะห์ได้
1. ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองก็ต้องการการออกกำลังเพื่อให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีอยู่เสมอเช่นเดียวกับร่างกาย การอ่านหนังสือเป็นเหมือนกับการออกกำลังสมอง ทำให้สมองของเราได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การกระตุ้นการทำงานของสมอง (Mental Stimulation) อย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์และช่วยพัฒนาเรื่องการจดจำได้ เช่น เมื่อคุณอ่านหนังสือ คุณก็ต้องจดจำตัวละคร ความเป็นมาของเรื่องราว และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ซึ่งทุกครั้งที่มีความทรงจำใหม่ๆ สมองก็จะเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ และเรียกกลับมาเมื่อเราต้องการใช้งาน ยิ่งอ่านหนังสือมาก สมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจดจำก็จะได้ทำงานมาก
2. ความเครียดลดลงและจิตใจสงบมากขึ้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจมอยู่กับการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม ความเครียดจากงาน หรือปัญหาส่วนตัวต่างๆ ที่คุณเจอมาจะถูกลืมไปทันที การอ่านนิยายสนุกๆ จะพาให้คุณได้เข้าไปอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง ขณะที่การได้อ่านบทความดีๆ สักบทความ ก็จะทำให้คุณจดจ่ออยู่กับเวลาในขณะนั้นและลืมความกังวลต่างๆ ไป นอกจากจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายแล้ว การได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนา สามารถช่วยให้คุณรู้สึกสงบอีกด้วย
3. ได้รับความรู้
ทุกอย่างที่คุณอ่านจะเป็นการเพิ่มเติมความรู้ให้กับคุณทั้งสิ้น ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณอาจจะต้องนำความรู้เหล่านั้นออกมาใช้เมื่อไหร่ ยิ่งคุณมีความรู้มากแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้คุณได้เปรียบมากขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายต่างๆ สิ่งของหรือเงินทอง อาจถูกขโมยไปได้ แต่ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเอาไปจากคุณได้
4. มีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้น มีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้น
ยิ่งคุณอ่านหนังสือมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีคลังคำศัพท์เพิ่มมากเท่านั้น และคำศัพท์เหล่านั้นก็จะถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานเขียนดีๆ จะส่งผลต่อการเขียนของคนที่ได้อ่าน การได้ซึมซับวิธีและสไตล์การเขียนของนักเขียนคนอื่นๆ จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการเขียนของคุณเองในการทำงาน คนที่มีความสามาถในการอ่านและพูด และมีความรู้ที่หลากหลาย มีความเป็นไปได้ที่จะเจริญเติบโตในหน้าที่การงานมากกว่าคนที่ไม่ค่อยรู้จักคำศัพท์และมีความรอบรู้ในเรื่องต่างๆ น้อย นอกจากนั้นการอ่านหนังสือภาษาต่างประเทศยังช่วยในการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ อีกด้วย เพราะคุณจะได้คำศัพท์ใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้พูดและเขียนภาษานั้นได้คล่องขึ้น
5. มีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์
คุณเคยอ่านหนังสือนิยายแนวสืบสวนสอบสวน แล้วคิดแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวเองก่อนที่จะอ่านหนังสือจบหรือไม่ การเก็บรายละเอียดต่างๆ ในเรื่องแล้ววิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือหาตัวคนร้ายได้ เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ทักษะด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ การวิจารณ์นิยายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวพล็อตเรื่อง คาแร็คเตอร์ตัวละคร ความลื่นไหลของเนื้อเรื่อง รวมถึงการแสดงความคิดเห็นกับคนอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือเล่นนั้นๆ ก็เป็นการช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ได้เช่นกัน
6. มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากขึ้น
ในโลกที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราแบบทุกวันนี้ มีเรื่องต่างๆ มากมายที่ดึงดูดความสนใจของเราพร้อมกันในเวลาเดียว หลายคนสามารถทำงาน เช็กอีเมล แชทกับเพื่อน อ่านสเตตัส ดูโทรศัพท์มือถือ และพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5 นาที ซึ่งการทำพฤติกรรมแบบนี้ จะทำให้ความสามารถในการทำงานของเราลดลง และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดได้ แต่เมื่อคุณได้อ่านหนังสือ คุณก็จะให้ความสนใจและโฟกัสไปที่เรื่องราวในหนังสือเท่านั้น ก่อนเริ่มทำงาน ลองหาเวลาอ่านหนังสือ สัก 15 – 20 นาที แล้วคุณจะพบว่ามันสามารถช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้นเมื่อถึงเวลาทำงาน
7. ให้ความบันเทิง
การอ่านหนังสือเป็นวิธีสร้างความบันเทิงให้กับตัวเองวิธีหนึ่ง หลายคนมีความสุขกับการได้ซื้อหนังสือ แต่บางคนนั้นการไปยืมหนังสือมาจากห้องสมุดเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะห้องสมุดมีหนังสือมากมายหลากหลายประเภทให้คุณได้เลือกอ่านโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากในการซื้อ และห้องสมุดมักจะนำหนังสือใหม่ๆ เข้ามาเสมอ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่สะดวกในการที่จะไปห้องสมุด คุณก็สามารถอ่านหนังสือผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ เพราะทุกวันนี้หนังสือหลายเล่มมีการทำออกมาในรูปแบบของ e-book หรือ PDF ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อ่านหนังสือ

8 ความคิดเห็น: